พื้นฐานทำสไลด์ให้เข้าใจง่ายสไตล์ญี่ปุ่น

3 พื้นฐานทำสไลด์เข้าใจง่าย สไตล์ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเขาทําสไลด์กันแบบไหนมาเรียนรู้กันครับ สวัสดีครับในบทความนี้ผมมาแบ่งปัน

“3 พื้นฐานการทําสไลด์สไตล์ญี่ปุ่นนะ”

ออกตัวก่อนว่า ทําไมพอที่จะพูดเรื่องนี้ได้เพราะว่าผมทํางานในบริษัทญี่ปุ่นมาตลอดชีวิตการทํางานเป็นพนักงานประจําเลยนะครับ 12 ปีเต็มนะแล้วก็หัวหน้าเป็นคนญี่ปุ่นตลอดชีวิตการทํางาน แล้วก็ไปอยู่ที่ญี่ปุ่น

ทํางานที่ญี่ปุ่น 2 ปี แล้วก็ไปที่ประเทศญี่ปุ่นทุกๆ ปีนะครับ

มีโอกาสได้เห็นสไลด์ของประเทศญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อมากเลยว่าเป็นประเทศที่ทํางานได้มีประสิทธิภาพแล้วก็มีโอกาสได้เนี่ยบรรยายเกี่ยวกับเรื่องพวกเนี้ยพอสมควรอันดับแรกมาทําความเข้าใจตรงกันก่อนว่า สไลด์สไตล์ญี่ปุ่นมันต่างกับสไลด์อื่นๆ ยังไง?

จริงๆ แล้ว มันอาจจะไม่ได้แทบไม่ได้ต่างกับสไลด์ที่มีประสิทธิภาพของคนทั้งโลกก็ได้นะแต่ว่าอยากให้ลองดูสไตล์ก่อนครับให้นึกถึงบริษัทที่เรา เขาเรียกว่าดูบ่อยๆ แล้วกันมีสไลด์ของโตโยต้านะครับซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกเอกสารที่ผมเอามาให้ดู เนี่ยก็ไปสามารถหาได้นะครับจากในเว็บไซต์ของโตโยต้าเองนะเกี่ยวกับพวก Investor Presentation

อันนี้ถัดไปนะครับ ก็ของ SONY เช่นเดียวกัน

จริงๆ แล้วสไลด์พวกนี้ครับ

สําหรับผมแล้วเป็นสไลด์ที่มีมี

จุดเหมือนกันอยู่สัก 2-3 อย่าง

สามอย่างที่เราตกผลึกได้จากสไลด์กลุ่มเนี้ย คือ เห็นด้วยกับผมไหมว่ามันเป็นสไลด์ที่มองเห็น Object หรือมองเห็นวัตถุต่างๆ ง่ายทันทีที่เรามองเห็นเนี่ย

เราเข้าใจสิ่งนั้นง่าย โอเคเมื่อกี้เราอาจจะไม่ได้มีเวลาอ่านเยอะมากแต่ว่าเนื่องจากว่าการที่มองเห็นง่ายแล้วเขาใช้สิ่งที่ใช้อธิบายครับวัตถุต่างๆ ที่เขาเรามองเห็น มันเข้าใจง่ายนะครับแล้วก็อันสุดท้ายเนี่ย ถ้าเราอ่านในรายละเอียดเนี่ยครับโอกาสที่เราจะเข้าใจผิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อจะน้อยมาก

นี่คือ Character 3 อย่างที่เด่นๆ ของสไลด์ที่มีประสิทธิภาพหรือสไลด์ของประเทศญี่ปุ่นที่ผมได้ไปเรียนรู้มาแล้วกันนะครับ

1 มองเห็นง่าย

2 เข้าใจง่าย

3 แล้วก็สามคือมี ความคาดเคลื่อนหรือว่าความผิดพลาดที่จะเข้าใจไม่ตรงกันเนี่ย น้อยมากนะครับ

เพื่อให้พวกเราเข้าใจมากขึ้นว่า

อะไรคือ “มองเห็นง่าย”

อะไร คือ “เข้าใจง่าย”

แล้วก็อะไร คือ “เข้าใจตรงกัน” เนี่ย

เดี๋ยวอยากให้ลองดูกิจกรรมต่อไปนี้เนาะ

ติต่างว่านี่ คือ สไลด์หนึ่งสไลด์แล้วกันนะครับเดี๋ยวผมจะวงกลมให้กับทุกท่าน

แล้วเดี๋ยวให้ทุกท่านจินตนาการตามดูอ่านออกเสียงหรือพูดคิดตามในสมองก็ได้นะครับว่าสิ่งที่พวกเราเห็นเนี่ยมันอ่านว่าอะไรคีย์เวิร์ด คือ เดี๋ยวผมจะวงในพื้นที่ต่างๆเห็นแล้วมันอ่านว่าอะไรตอบสิ่งนั้นในใจ

ถ้าพร้อมแล้วไปลองดูด้วยกัน เนาะ

1. อันนี้อ่านว่าอะไรลองตอบในใจ

2.ได้คําตอบแล้วเนาะ

3. อันสุดท้ายครับพวกเราน่าจะได้คําตอบทั้งหมดทีนี้

สมมุติว่าถ้าผมทําสักหนึ่งพื้นที่ขึ้นมาใหม่นะนี่ผมตีกรอบขึ้นมาใหม่นะครับขอบด้านขวาด้านบนมีดาวนะ เราจะได้เห็นตรงกันนะครับกรอบสี่เหลี่ยมด้านขวา

แล้วผมก็เขียนอะไรบางอย่างลงไปหลังจากนั้นผมก็วงกลมเช่นเดียวกัน ถ้าตอบได้คิดในใจคําตอบไว้เลยนะครับถ้าอ่านไม่ออก ก็คิดในใจไว้ว่าอ่านไม่ออก

โอเคนะ กิจกรรมเนี้ยครับคือ

มองเห็นง่าย เข้าใจง่าย เข้าใจตรงกัน

เดี๋ยวผมจะอธิบายอีกทีหนึ่งนะครับ

ก่อนที่พวกเราจะตอบได้ว่า บริหารพื้นที่ บริหารตัวอักษรบริหารแผนภูมิ บริหารสไลด์เสมือนจริงอะไรพวกนี้

คือบอกตามคําตอบในสมองได้ทันทีที่ผมงง

เนี่ยจริงๆ แล้ว...

มันเกิด 3 อย่างในสมองของพวกเราครับ

อย่างที่หนึ่งคือ ผมพาไปมอง

โอเคไหม ผมไม่ได้บอกว่ามันคือตัวอักษร มันคือพื้นที่ มันคือสไลด์เสมือนจริงพอนึกภาพออกไหมครับแต่ผมแค่สร้างวงกลมขึ้นมาวงกลมหนึ่งเพื่อให้พวกเราสามารถที่จะโฟกัสกับเนื้อหาที่อยู่ในนั้นได้ทันทีที่เรามองที่เดียวกันเราก็จะเห็น สิ่งเดียวกันอันนี้ทันไหมครับ

คีย์เวิร์ดแรกมันก็เลย ก็เลยเป็นว่าไอ้สไลด์ส่วนใหญ่ที่เราทําแล้วเรารู้สึกว่าไม่อยากอ่านนึกว่าสไลด์ส่วนใหญ่ที่เราทําแล้วเรารู้สึกว่ามันแบบมองยาก ดูยาก

เพราะว่ามันมองเห็นยากนั่นเอง ตรงนี้เข้าใจตรงกันมั้ยครับถ้าเราสามารถจะสร้างจุดที่ทําให้คนมองได้ง่ายๆก็เป็นไปได้ว่า

เอกสารเราจะเข้าใจง่าย เมื่อมันเข้าใจง่ายเข้าใจตรงกัน มันก็จะได้ผลลัพธ์

เพราะฉะนั้น Filter หรือว่าช่องที่หนึ่งครับ เราจะต้องทําให้มันมองเห็นง่ายๆนั่นเอง

ทีนี้ยังจําไอ้เจ้าตัวสี่เหลี่ยมที่มีดาวแล้วก็มีตัวอักษรอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ตรงในนั้นได้มั้ยแล้วผมก็วงกลมให้ทุกท่านมอง ถูกมั้ยครับ

อันเนี้ยคือเรามองที่เดียวกันเราเห็นสิ่งเดียวกัน แต่มันยังไม่เกิดวงกลมนี้

คือเข้าใจ เราสามารถจะขยับตาไปมองที่อื่นที่ใหม่ได้เราเห็นสิ่งใหม่ได้ แล้วเราก็เข้าใจสิ่งใหม่ได้มันยังไม่เกิดวงกลมนี้ แล้วเราก็เข้าใจสิ่งใหม่ได้มันจะเป็นวงกลมของการได้

แบบทําความเข้าใจอย่างต่อเนื่องแล้วก็ลื่นไหล เนาะ เป็น flow แต่ว่า ถ้าเมื่อเมื่อสักครู่นี้ครับเราวงหนึ่งขีดหนึ่ง ใช่ไหม จําได้ไหม

ไอ้สิ่งที่เราเห็นเนี่ยมันจะมีสองแบบ ก็คือว่าสิ่งที่เราเนี่ย มันงง หรือว่า มันง่าย

ถ้าเราทําให้เห็นง่ายแล้วสิ่งที่เห็นนั้นต้องเข้าใจง่ายถ้ามันเห็นง่ายแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราต้องคิดเพิ่มคือสิ่งที่เราทําให้คนอื่นเขาเห็นมันเข้าใจง่ายหรือเปล่า

ถ้ามันเข้าใจง่าย คําถามถัดไปคือ

แล้วเขาเข้าใจตรงกับเราหรือเปล่า ตรงกันไหม

มันก็เลยเป็น 3 Step

1. สไลด์ที่ดีมันต้องมองเห็นง่าย

2. เข้าใจง่ายๆ

3. เข้าใจตรงกัน

เขาเข้าใจตรงกันกับเราหรือเปล่า ถ้า 3 Step นี้มันไม่ผ่านมันก็จะมีโอกาสสูงมากเลยที่เขาจะไม่อนุมัติเพราะเขาไม่เข้าใจเพราะว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าอยากนี้ พอนึกภาพออกนะครับนี่คือคีย์หัวใจสําคัญ เรื่องนี้ ผมตกผลึกมาได้จากกระบวนการคิดของผู้ชายคนนี้นะครับคนนี้ ชื่อคุณ Fujio Cho เขาเป็นอดีตประธานบริษัทของโตโยต้า

เขาพูดเอาไว้ประโยคหนึ่งดีมากเลยคือ มันมีอยู่ช่วงหนึ่งครับที่โตโยต้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด 20 ปีแรกที่ทําธุรกิจอุตสาหกรรมรถยนต์

เขาขายได้แค่ประมาณสัก 20,000 คันเท่านั้นเองนะครับในขณะที่อายุใกล้ๆ กัน เนี่ยในจังหวะที่โตโยต้าขายได้ 20,000 คันรถยนต์ Ford ขายได้แล้วน่าจะเป็น 1-2 ล้านคันทั่วโลก

นึกภาพออกยอดขายมันต่างกันหนักมากเลย แต่ปัจจุบันนี้ฟอร์ดกับโตโยต้าขายได้ดีแทบจะไม่ต่างกัน เผลอๆ บางครั้ง

โตโยต้าขายได้ดีกว่าด้วยซ้ําไปนะครับจุดเปลี่ยนของเขาก็คือ

ประธานบริษัทคนนี้เขาพูดเอาไว้ตอนที่มีคนมาสัมภาษณ์นะครับเขาพูดไว้ประมาณนี้ เขาบอกว่า

“สร้างผลลัพธ์ที่ดีได้จากการที่ให้คนธรรมดาทําตามกระบวนการที่ยอดเยี่ยม”

แล้วเขาก็พูดไว้อีกหน่อยว่า ในขณะที่บริษัทอื่นๆ อาจที่อาจจะยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการ

เขาให้คนที่เก่งมากๆหรือว่าอัจฉริยะมาทํากระบวนการที่ยอดแย่

ความหมายคือ...

ถ้าคุณรู้กระบวนการที่ดีและคุณทําตามกระบวนการที่ถูกต้อง

คุณก็มีโอกาสที่จะได้ทักษะนั้นหรือได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการแต่ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนก็ตามแต่คุณไม่มีขั้นตอนหรือไม่มีกระบวนการการคิดหรือว่าการลงมือทําที่ถูกต้องคุณก็อาจจะยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

ซึ่งเรื่อง ผมตกผลึกออกมาใน "หลักสูตรนี้เทคนิคทําสไลด์เข้าใจง่ายสไตล์ญี่ปุ่น"

กลั่นมาจากประสบการณ์ทํางาน 10 กว่าปีแล้วก็รู้สึกว่า ทําไมเรื่องนี้ไม่มีใครสอนเราตอนเด็กๆ

หลักสูตรนี้ไม่ใช่แค่ผมพูดเองคนที่เข้าไปเรียนเนี่ย เขาก็บอกแล้วเนาะอย่างเช่น คุณพิมพ์พัชร หรือ คุณต่อ

เขาบอกว่าถ้ารู้ตอน 40 อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนผมสี่สิบรู้สึกรื่องพวกเนี้ยธรรมดา คือ ควรต้องรู้ถ้าไม่งั้นคุณจะมาเป็น

ผู้บริหารไม่ได้แต่เป็นเรื่องแปลกที่เราไม่เคยได้เรียนเรื่องพวกเนี้ย ตอนอายุ 20 เลยนะครับเขาก็เลยรู้สึกว่าถ้าได้รู้เรื่องตั้งแต่ก่อนอายุ 20 มันเป็นแต้มต่อหนักมากส่วนพี่ต่อเนี่ยครับพี่เป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรญี่ปุ่น

ผมไม่แน่ใจองค์กร แต่เป็นองค์กรใหญ่ค่ายหนึ่ง

เขาก็บอกว่าได้ประโยชน์เยอะมาก น่าจะรู้อย่างนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มทํางานในหลักสูตรนี้จะมี 3 Step

ทํายังไงให้ มองเห็นง่าย ทําอย่างไร ให้เข้าใจง่าย แล้วทํายังไงให้เข้าใจตรงกัน ถ้ากระบวนการดี ผลลัพธ์ก็จะดี และในแต่ละอันมันจะมีเทคนิคย่อยย่อย คือ ใส่ใจเรื่องพื้นที่ ตัวอักษรสี ตัวเลขข้อความในแต่ละอันก็จะลงเจาะลึกไหมมี

ตัวอย่างให้ดู

อยากเชิญมาเรียนรู้ด้วยกันจังเลยนะครับ ถ้ามีโอกาส ก็มาเจอกันผมคิดว่าถ้าเราเข้าใจคอนเซ็ปต์นี้นะครับ

1.มองเห็นง่าย

2.เข้าใจง่าย

3.เข้าใจตรงกัน

เราน่าจะทําสไลด์ได้ใกล้เคียงกับที่บริษัทญี่ปุ่นระดับโลกเขาทํากันแล้วพบกัน

อย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ให้กับ และอย่าลืมกดติดตาม “สรุปให้” ด้วยนะครับสวัสดีครับ